อาการเสียวฟันตัวร้าย

เคยไหมเวลาเคี้ยวอาหาร ดื่มเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น แล้วเกิดอาการเสียวจี๊ดที่ฟัน ทําให้รับประทานอะไรก็ไม่อร่อย ลดความอยากอาหารของเราลงไปเยอะ ซึ่งอาการนี้ก็จะเกิดคําถามขึ้นมาว่าอาการเสียวฟันนี้เกิดมาจากสาเหตุใดกันแน่นะ

อาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เกิดจากเส้นประสาทในฟันที่ตอบสนองต่อสิ่งภายนอกไวกว่าปกติ ซึ่งอาการเสียวฟันจะเกิดได้เมื่อ เคลือบฟันของเราสึก แตกออก หรือเหงือกร่น

เนื้อฟัน และท่อเล็กๆ ภายในเนื้อฟันจะถูกเปิดออกให้สัมผัสกับสิ่งกระตุ้นภายนอก อาทิเช่น อาหาร เครื่องดื่มร้อนหรือเย็น อาหารรสชาติหวาน ลม หรือแม้กระทั้งการแปรงฟัน

เมื่อสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในปากเราหรือเวลาเราอ้าปาก ก็จะทําให้เกิดอาการเสียวฟันได้

สาเหตุของอาการเสียวฟัน

1. ฟันผุ

2. คอฟันสึก

3. ฟันแตก

4. รับประทานอาหารรสเปรี้ยวจัด

5. เสียวฟันหลังจากการอุดฟัน หรือขูดหินปูนมาใหม่ๆ

การรักษาอาการเสียวฟัน

สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติ คือ ปรึกษาทันตแพทย์ให้ทันตแพทย์ช่วยตรวจว่า อาการเสียวฟันนั้นเกิดจากสาเหตุใด

เสียวฟันเนื่องจากฟันผุ หรือวัสดุอุดเก่าเสียหาย

สามารถรักษาด้วยการอุดฟัน โดยเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับตําแหน่ง และขนาดของรอยโรคนั้น ๆ อาการเสียวฟันก็จะหมดไป

เนื่องจากวัสดุอุดฟันนั้นสามารถปิดท่อเล็กๆ ภายในเนื้อฟัน และป้องกันไม่ให้มีการกระตุ้นต่อท่อเล็ก ๆ ดังกล่าว ถ้าเสียวฟันหลังจากอุดฟันไปใหม่ ๆ อาจเกิดจากการที่วัสดุอุดฟันดึงเนื้อฟันเข้าหากัน ทําให้ภายหลังอุดฟันอาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้

กรณีที่อาการเสียวฟันเกิดหลังจากอุดฟันไปสักระยะหนึ่งแล้ว สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากฟันผุเพิ่ม หรือวัสดุอุดฟันชํารุดเสียหาย ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่ออุดฟันใหม่

เสียวฟันเนื่องจากฟันสึกหรือเหงือกร่น

มักเกิดกับคนไข้ที่แปรงฟันแรง ใช้ขนแปรงแข็ง หรือแปรงฟันผิดวิธี หากฟันซี่นั้น ๆ มีลักษณะสึกมาก ทันตแพทย์จะทําการอุดฟันซี่นั้น ซึ่งจะสามารถกําจัดอาการเสียวฟันได้

แต่หากฟันสึกไม่มาก ทันตแพทย์จะใช้ฟลูออไรด์ หรือสารลด อาการเสียวฟัน ซึ่งมีหลายชนิด เช่น 0.4% Stannous Fluoride Gel (Gel-Kam) หรือ Duraphat ทาบริเวณที่เสียว ร่วมกับปรับพฤติกรรมในการแปรงฟันให้ถูกวิธี

หากมีอาการเหงือกร่นมากจนเห็นรากฟัน ทันตแพทย์อาจพิจารณา ผ่าตัดเพื่อปลูกเหงือกบริเวณเหงือกร่นดังกล่าว (root coverage surgery) เพื่อช่วยป้องกันเหงือกร่นที่มากขึ้น

เสียวฟันเนื่องจากโรคปริทันต์และเหงือกร่น

หากเป็นโรคปริทันต์ควรรับการตรวจรักษาจากทันตแพทย์โดยตรง

ส่วนอาการเสียวฟันที่เกิดจากเหงือกร่น ทันตแพทย์จะแก้ไขสาเหตุ หรืออาจรักษาร่วมกับการใช้ฟลูออไรด์ หรือสารลดอาการเสียวฟัน ซึ่งมีหลายชนิด เช่น 0.4% Stannous Fluoride Gel (Gel-Kam) หรือ Duraphat เป็นต้น

ร่วมกับปรับพฤติกรรมในการแปรงฟันให้ถูกวิธี เหงือกร่นบางประเภทสามารถรักษาโดยการปลูกเหงือก (root coverage surgery) ร่วมด้วยได้

เสียวฟันเนื่องจากสาเหตุอื่น ๆ

เช่น ฟันร้าว ฟันแตก ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

วิธีป้องกันอาการเสียวฟัน

  • แปรงฟันให้ถูกวิธี ผู้ที่ชอบแปรงฟันแรง ๆ มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดอาการเสียวฟันมาก

    ข้อแนะนําคือ ควรใช้แปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม
    แปรงรอบ ๆ และใต้แนวเหงือก ซึ่งเป็นบริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างเหงือก และส่วนบนของซี่ฟัน

    และควรทําความสะอาดให้ทั่วทุกซอกฟัน โดยการใช้ไหมขัดฟัน

  • ควรลดการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์ป็นกรดหรือเปรี้ยวจัด

    เพราะอาจมีผลใหเ้คลอืบฟันค่อย ๆ สึกออก จากผิวฟันทําให้เนื้อฟันถูกเปิดออก และเสียวฟันได้

  • พบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟันที่อาจผิดปกติ และรักษาได้ทันท่วงที

คลินิกครอบครัวฟันดี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

ข้อมูลโดย
ทพญ. กนกรัสม์ ฉันทแดนสุวรรณ

ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิง
1.https://dt.mahidol.ac.th/th/brochure-20220706-1/
2.https://bit.ly/3Uui8Cg


บทความที่เกี่ยวข้อง

ฟันซี่นี้เรายังอุดได้อยู่ไหมนะ

รู้ไว้ใช้คล่องไหมขัดฟัน

Previous
Previous

ปัญหากลิ่นปาก ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

Next
Next

เจ้าร้อนในตัวร้าย